3 เคล็ดลับ สุขภาพดี

สุขภาพดีไม่มีขาย

3 เคล็ดลับ สุขภาพดี

จงประกาศเจตจำนงถึงการมีสุขภาพดี
เพราะการไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสิรฐ

3 เป้าหมายที่สำคัญในชีวิตของมนุษย์ คือ ความสำเร็จทางการงาน การเงิน ด้านครอบครัว และการมีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ ชาวจีนจึงมีเทพเจ้า 3 องค์ คือ ฮก ลก ชิ่ว สำหรับอธิษฐานของความสำเร็จทั้ง 3 ด้านนี้

เคล็ดลับข้อที่ 1 โลกภายนอกสะท้อนโลกภายใน

หลายๆ สำนัก หลายๆ เว็บไซต์ หรือแม้แต่หนังสือหลายๆ เล่ม ล้วนอธิบายเคล็ดลับการมีสุขภาพดีในรูปแบบของการกิน กินดี อยู่ดี สุขภาพดีแน่นอน (ซึ่งนั่นมันก็ใช่แหละ แต่คนเราเลือกได้ขนาดนั้นเลยหรือ?)

จนวันหนึ่ง อินดี้ได้อ่านหนังสือของทันตแพทย์สม สุจีรา ซึ่งมีกัลลยาณมิตรแนะนำและส่งมาให้อ่าน เป็นหนังสือชื่อ “กรรม-พันธุ์” ถึงได้รู้ว่า ที่ผ่านมาเราวิเคราะห์การแก้ปัญหากันที่เหตุ ไม่ใช่ “ผล”

ตัวกู ของกู ลูกกู หลานกู ไม่มีอยู่จริง ยีนและดีเอ็นเอเป็นเพียงเครื่องมืออย่างหนึ่งของกฎแห่งกรรม เมื่อเสียชีวิตหรือแค่เป็นอัลไซเมอร์ ก็จำอะไรไม่ได้แล้ว การเกิดใหม่จะลบล้างความทรงจำทั้งหมดไป ความผูกพันทางพันธุกรรมเป็นเพียงเรื่องสมมติ

ปัญหาสุขภาพส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากสภาวะทางจิต (เจตสิก) จะเห็นว่าปัจจุบันในต่างประเทศเริ่มศึกษาเรื่องจิตกันเยอะขึ้นหรือแม้แต่ Dr. Joe Dispenza ที่เขียนหนังสือเรื่อง “You are the Placebo” หรือแม้แต่การเกิดอุบัติเหตุก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่อย่างใด

เคล็ดลับข้อที่ 2 ปฏิบัติพรหมวิหาร 4

พรหมวิหาร 4

เป็นหลักธรรมค้ำจุนโลก แต่ก็ไม่ได้ตระหนักอะไร แต่หากพิจารณาให้ดีจะพบว่าเมื่อฝึกปฏิบัติอย่างต่อเนื่องจะเกิดแรงสั่นสะเทือนปกป้องคุ้มครองผู้ที่ฝึกปฏิบัติ ดังนี้

เมตตา คือ ความปรารถนาให้คนอื่นมีความสุข เมตตาจะทำได้ก็ต่อเมื่อไม่มีความโกรธ เกลียด อาฆาต ริษยา ฯลฯ อยู่ การละอารมณ์เหล่านี้ทำได้ยาก การแผ่เมตตาเป็นเทคนิคหนึ่งที่จะช่วยให้อารมณ์เบาบางลงจนหมดไปในที่สุด เมื่อใจสบาย กายก็สบาย

กรุณา คือ ความปรารถนาให้คนอื่นพ้นทุกข์ ต้องการช่วยเหลือปลดเปลื้องให้เขาพ้นจากความทุกข์ความเดือดร้อนนั้น ซึ่งมักจะตามมาด้วยการกระทำ เช่น บริจาค ช่วยประกาศ พูดปลอบใจ ให้แรงกาย ฯลฯ (หากพิจารณาดีๆ จะพบว่าแรงบุญจะส่งเสริมให้ผู้ที่ฝึกปฏิบัติไม่ทุกข์ใจ)

มุฑิตา คือ การยินดีในความสำเร็จของคนอื่น ผู้ที่มีความรู้สึกเมตตา กรุณา แต่ขาด มุฑิตา แม้จะไม่ต้องพบกับเหตุการณ์ที่เป็นทุกข์ และมีแต่สิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต แต่กลับรู้สึกว่า ไม่มีความสุขเท่าที่ควรโดยหาสาเหตุไม่ได้ นั่นก็คือการไม่เคยมีความรู้สึกยินดีเก็บไว้ในภวังคจิตหรือจิตใต้สำนึก

อุเบกขา คือ การรู้จักที่จะปล่อยวาง ในบางครั้งชีวิตคนเราก็ต้องพบกับสิ่งที่ไม่อาจเข้าไปแก้ไขได้ เมื่อถึงเวลาต้องปล่อย ก็ต้องปล่อย บางสิ่งบางอย่างที่เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุปัจจัย ตามกฎแห่งกรรม เมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องรู้จักปล่อยวาง ไม่เอาใจไปรับ เป็นความรู้สึกวางเฉย

อุเบกขาเป็นธรรมที่เป็นพื้นฐานต่อการฝึกควบคุมอารมณ์ทุกชนิด คนที่มีอุเบกขา จิตจะไม่หวั่นไหวไปตามสิ่งแวดล้อม ไม่ดีใจ หรือเสียใจจนเกินเหตุ เมื่อมีอะไรมากระทบก็ไม่กระเทือน และขณะเกิดวิกฤติ จิตก็จะนิ่งพร้อมที่จะแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เคล็ดลับข้อที่ 3 เห็นจิตในกาย

พิจารณาเห็นจิตในกาย มีวิมังสา ซึ่งวิมังสาเกิดจากปัญญาเจตสิก แม้ว่าความขยัน (วิริยะ) ความมุ่งมั่น (จิตตะ) และพรสวรรค์ (ฉันทะ) เป็นสิ่งสำคัญ แต่ส่วนประกอบที่ขาดไม่ได้เลย คือ การวิเคราะห์ (วิมังสา)

วิมังสา คือ สิ่งที่ทำให้มนุษย์แตกต่างจากสัตว์เดรัจฉานทั้งหลาย ผึ้งเป็นสัตว์ที่มีทั้ง ฉันทะ วิริยะ และจิตตะ แต่ขาดวิมังสา ทำให้รูปร่างของรังผึ้งไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลงเลยตลอดหนึ่งล้านปีที่ผ่านมา

แต่ไม่ว่าจะประสบความสำเร็จในด้านใด มากมายขนาดไหน ในที่สุดก็ต้องคืนกลับไปให้กับโลก เมื่อวาระสุดท้ายของชีวิตมาถึง มนุษย์เราไม่สามารถเอาความสำเร็จทางโลกหรือทรัพย์สมบัติอะไรติดตัวไปด้วยได้เลย ขณะใกล้เสียชีวิตการได้เปิดสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารดูตัวเลขมากมายมหาศาลที่ปรากฎในนั้นก็ไม่มีประโยชน์แต่อย่างใด เพราะไม่สามารถไปเบิกใช้ในโลกหน้าได้ ตัวเลขที่เห็นล้วนเป็นมายา เหมือนเกมเศรษฐีที่เล่นจบเกมแล้ว มีหลายคนอาจคิดว่าถึงไม่ได้ใช้ก็เก็บไว้เป็นมรดกให้ลูกหลาน

ตัวตนไม่มีอยู่จริง ทุกอย่างตกอยู่ภายใต้หลักแห่ง “ไตรลักษณ์” อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เพียงแต่ว่า อนิจจัง มักจะถูกบดบังด้วยสันตติ (ความต่อเนื่อง) เช่น เราเห็นเด็กคนหนึ่งเมื่อ 10 ปีให้หลังจะเห็นว่าเด็กโตขึ้นมากราวกับคนละคน แต่สำหรับพ่อแม่ที่เห็นอยู่ทุกวัน จะไม่แปลกใจกับความเปลี่ยนแปลงนี้ ในทางการแพทย์ถือว่าร่างกายเป็นเซลล์ใหม่ทั้งหมด เพียงแต่สืบทอดข้อมูลต่อเนื่องกันมา ขนาดเซลล์สมอง ก็ยังทยอยผลัดเปลี่ยนองค์ประกอบภายในใหม่ทั้งหมด สัญญาในภวังคจิตที่ช่วยรักษาภพชาติไว้ ทำให้เรายังระลึกได้ว่า ตัวเรานี้คือคนเดียวกันกับเมื่อสิบปีก่อน เมื่อใดที่ภวังคจิตเปลี่ยนเป็นจุติจิตแล้วออกจากร่าง จะรู้ว่าร่างกายนั้นไม่ใช่ของเราเลย ก่อนหน้านี้สักหกสิบปี ไม่เคยมีเราอยู่บนโลกนี้ และหลังจากนี้อีก 60 ปี ก็จะไม่มีเราอีกเช่นเดียวกัน

“สพฺโพ โลโก ปกมฺปิโต…
โลกทั้งโลกมิใช่อะไรอื่น
หากเป็นแต่เพียงความสั่นสะเทือน”

ส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยตัวเอง

เพราะจินตนาการ สำคัญกว่าความรู้
แต่สิ่งที่เหนือกว่าความรู้สู่ความมั่งคั่งคือ "ทักษะ"
และทักษะต้องฝึกฝนด้วยตัวเอง

นักเรียนเข้าเรียน คลิกที่นี่ ลงทะเบียนสร้างธุรกิจออนไลน์ คลิกที่นี่

Leave a Reply