จิตของคนที่ไม่ได้ฝึกสติจะยุ่งเหยิงด้วยการปรุงแต่ง แต่จิตของคนที่ฝึกสติ สมาธิ จะละกิเลสตัณหาได้ รู้สึกสงบ แต่เมื่อจิตนิ่ง ว่างถึงขนาดที่ไม่มีความยุ่งเหยิงใดๆ เลย คุณสมบัติของจิตในมิติที่ห้าซึ่งอยู่เหนือกาลเวลาจึงจะแสดงออกมาให้เห็น เมื่อนั้นจะเกิดปัญญาหยั่งรู้อนาคต หรือที่เรียกกันว่า อนาคตังสญาณ

วันนี้ให้คุณกอดตัวเอง รักตัวเอง เพราะการดำรงสติและใช้ชีวิตอยู่บนความไม่ประมาทคือพรอันประเสริฐสำหรับทุกคน

1. ทำซ้ำขั้นตอนที่หนึ่งถึงสามของ Magic Practice Number 1 – Count Your Blessings: เขียนพรสิบประการ เขียนว่าทำไมคุณถึงรู้สึกขอบคุณ อ่านรายการของคุณอีกครั้ง และในตอนท้ายของพรแต่ละข้อ ให้พูดว่า ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ และรู้สึกสำนึกคุณสำหรับพรนั้นเท่าที่คุณจะทำได้
   
   
2. มุ่งความคิดและความสนใจไปที่พื้นที่รอบๆ หัวใจของคุณ
   
   
3. หลับตาและในขณะที่ใจจดจ่ออยู่กับหัวใจ ให้พูดคำวิเศษขอบคุณในใจ
   
   
4. ทำ Top Ten Desire List (ความปรารถนาสูงสุด 10 ประการ) ของคุณและฝึกฝน Heart Magic โดยอ่านความปรารถนาแต่ละข้อ จากนั้นหลับตา จดจ่ออยู่กับพื้นที่รอบๆ หัวใจของคุณ แล้วค่อยๆ ขอบคุณอีกครั้ง
   (ในที่นี้อยากให้เน้นการตระหนัก ระลึกรู้ หรือกำหนดสติรับรู้แทนก็ได้ค่ะ ส่วนลักษณะของ Heart Magic ให้เป็นในลักษณะสัมผัสรู้แห่งจิตวิญญาณของตัวเองก็ได้ค่ะ)
   
   
5. ก่อนนอนให้คุณนำก้อนหินมหัศจรรย์มาถือไว้ในมือ แล้วกล่าว ขอบคุณ สำหรับเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นในวันนี้

ลางสังหรณ์เกิดจากการประมวลผลของจิตใต้สำนึก ซึ่งให้เหตุผลเชิงตรรกะไม่ได้ จะว่าไปแล้วการสังหรณ์ใจก็เป็นการคาดเดาอนาคตอย่างหนึ่ง โอยอาศัยข้อมูล ประสบการณ์ อารมณ์ความรู้สึกในอดีต ฯลฯ มาช่วยในการตัดสินใจ ดังนั้นการคาดหมายอนาคตของญาติพี่น้องที่ความรู้สึกใกล้ชิดกันเพราะมียีน ดีเอ็นเอ และประสบการณ์ร่วมกันจึงมีโอกาสถูกต้องมากกว่า เช่น พี่ชายบอกว่าสุดสัปดาห์นี้จะพาไปเที่ยว แต่เรารู้สึกว่าอาจจะไม่ได้ไป พอถึงเวลาจริงๆ ปรากฏว่าพี่ชายโทรศัพท์มาบอกยกเลิกกระทันหัน ซึ่งเป็นไปตามคาด ด้วยเหตุนี้ แม่จึงมีความสามารถในการหยั่งรู้อนาคตของลูกมากกว่าใครทั้งหมด เพราะความผูกพันที่ใกล้ชิด แต่แน่นอนว่าไม่มีใครรู้ดีไปกว่าตัวเราเอง

เนื่องจากจิตใต้สำนึกจะทำงานเด่นขึ้นในช่วงนอนหลับ ลางสังหรณ์บางครั้งจึงแสดงออกมาในรูปของความฝัน ซึ่งถ้าสามารถตีความออกมาได้ก็จะสามารถหยั่งรู้อนาคต